ความรู้ด้านการตลาด

Customer Retention vs Recruitment: สมดุลที่นักธุรกิจ MLM ต้องเข้าใจ

Share :

ในธุรกิจเครือข่าย (MLM) คำถามสำคัญที่ทุกคนต้องตอบให้ได้คือ…
“คุณจะเลือกโฟกัสอะไรระหว่างการหาสมาชิกใหม่ (Recruitment) หรือการรักษาสมาชิกเก่า (Retention)?”

หลายคนมุ่งหาสมาชิกใหม่ไม่หยุดเหมือน “ตักน้ำใส่ถังรั่ว” ขณะที่บางคนเอาแต่ดูแลทีมเดิมจนธุรกิจไม่เติบโต สุดท้ายแล้วความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่การเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คือ การหาสมดุลระหว่างทั้งสองด้าน บทความนี้จะพาคุณเข้าใจว่าเหตุใด Recruitment จึงสำคัญต่อการเติบโต และ Retention จึงจำเป็นต่อความยั่งยืน — พร้อมกลยุทธ์ที่จะทำให้ธุรกิจ MLM ของคุณแข็งแรงทั้งสองขา

1. Recruitment – พลังของการเติบโต

การหาสมาชิกใหม่คือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจ MLM ขยายตัว

  • โอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่: สมาชิกใหม่หมายถึงเครือข่ายใหม่ และกลุ่มผู้บริโภคใหม่
  • พลังขับเคลื่อนรายได้: ยิ่งทีมใหญ่ โอกาสสร้างยอดขายยิ่งสูง
  • แรงบันดาลใจในทีม: สมาชิกใหม่เข้ามาจะช่วยเติมพลังบวก และกระตุ้นทีมให้เคลื่อนไหว

Insight: ธุรกิจเครือข่ายที่โฟกัสแต่ Recruitment โดยไม่รักษาลูกค้า จะพบว่ามีอัตราการ Drop-out สูงถึง 60% ในปีแรก (Direct Selling News, 2023)

2. Retention – หัวใจของความยั่งยืน

Retention หรือการรักษาลูกค้าและสมาชิกเก่า คือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจมั่นคงในระยะยาว

  • ลดต้นทุน: การรักษาลูกค้าเดิมมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการหาลูกค้าใหม่ถึง 5 เท่า (Harvard Business Review, 2022)
  • สร้างรายได้ต่อเนื่อง: ลูกค้าที่ซื้อซ้ำและสมาชิกที่อยู่ต่อทำให้ธุรกิจมีความมั่นคง
  • สร้างความเชื่อมั่น: การดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดจะสร้างการบอกต่อ (Word of Mouth) ซึ่งเป็นจุดแข็งของ MLM

3. สมดุลที่นักธุรกิจ MLM ต้องเข้าใจ

  • ถ้าโฟกัสแต่ Recruitment: ธุรกิจจะเหมือน “ตักน้ำใส่ถังรั่ว” หาสมาชิกใหม่เข้ามา แต่ก็มีคนออกไปตลอด
  • ถ้าโฟกัสแต่ Retention: ธุรกิจจะนิ่ง ไม่มีการเติบโต และไม่สามารถขยายเครือข่ายได้

💡 กุญแจสำคัญคือการสร้างระบบที่ทำได้ทั้งสองอย่าง

  • มีการอบรมและสอนงานให้สมาชิกใหม่เริ่มต้นได้ง่าย → ลด Drop-out
  • มีโปรแกรมดูแลลูกค้าเก่า เช่น โปรโมชั่นพิเศษหรือกิจกรรมทีม → เพิ่มการซื้อซ้ำ
  • ใช้ Mentorship Marketing เพื่อสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ที่สามารถทำทั้ง Recruitment และ Retention ได้พร้อมกัน

4. กลยุทธ์เพื่อสร้างสมดุล

  1. Onboarding System: ต้อนรับและฝึกสมาชิกใหม่ภายใน 30 วันแรก
  2. Customer Care Program: ติดตามการใช้งานสินค้าและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง
  3. Community Building: สร้างกลุ่มที่สมาชิกเก่า-ใหม่ได้แชร์ประสบการณ์ร่วมกัน
  4. Recognition & Reward: ยกย่องทั้งคนที่ทำ Recruitment และคนที่มี Retention สูง เพื่อให้เกิดสมดุล

สรุป: Recruitment คือการโตเร็ว แต่ Retention คือการโตยั่งยืน

ธุรกิจ MLM ที่ประสบความสำเร็จจริง ต้องผสานทั้งการขยายทีมใหม่ และการรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ในเวลาเดียวกัน

Key Takeaway:
“Recruitment ทำให้ธุรกิจเติบโต…แต่ Retention ทำให้ธุรกิจยั่งยืน”

ถึงเวลาแล้วที่นักธุรกิจ MLM ต้องถามตัวเองว่า…
คุณกำลังสร้างธุรกิจที่ โตเร็วแต่เปราะบาง หรือ โตช้าแต่มั่นคง?


📌 ติดตามบทความ MLM & Marketing Insights เพิ่มเติมได้ที่ aiyara.co.th

แหล่งอ้างอิง
  • Direct Selling News. (2023). Balancing Recruitment and Retention in Network Marketing.
  • Harvard Business Review. (2022). The Value of Customer Retention.
  • Nielsen. (2022). Global Trust in Advertising Report.

ค้นหาคอร์สเรียน

หมวดหมู่

หมวดหมู่ทั้งหมด

ระดับ

Level TH